ผลการแข่งขัน: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซนอล 3-1 และนี่คือ 4 สิ่งที่ได้เห็นจากเกมนี้
1.ปฏิกิริยาตอบสนองที่ยอดเยี่ยม
แมนยูฯ ถล่ม อาร์เซนอล หลังจากเสียรวมไปถึง 6 ประตู ใน 2 นัดแรกที่แพ้ให้กับ ไบรจ์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด เอริก เทน ฮาก สั่งให้ลูกทีมมาซ้อมวันต่อไปทันทีหลังจบเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด ไม่มีการพัก แถมยังสั่งให้วิ่งเพิ่มเพื่อให้เท่ากับระยะทางที่นักเตะเบรนท์ฟอร์ดวิ่งในเกมนั้นอีกด้วย และนับตั้งแต่นั้นมา ยูไนเต็ด ก็กลายเป็นคนละทีม นักเตะตอบสนองต่อความพ่ายแพ้ และตอบสนองความต้องการของ เทน ฮาก ได้เป็นอย่างดี เริ่มจากการเอาชนะ ลิเวอร์พูล ต่อด้วย เซาแธมป์ตัน, เลสเตอร์ ซิตี้, และล่าสุดกับ อาร์เซนอล สปิริตในทีมดีขึ้นในแบบที่ควรจะเป็น ทุกคนสู้เพื่อกันและกัน ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะรักษาโมเมนต์แบบนี้ไว้ได้นานแค่ไหนเท่านั้น
2.เกมโต้กลับผีทีเด็ดจริงๆ
นอกจากประตูแรกซึ่งมาจากการจ่ายบอลที่รวดเร็วและไหลลื่นที่มาถึงแล้ว แอนโธนี่ที่เซ็นสัญญาใหม่มูลค่า 100 ล้านยูโร ยิงจากทางซ้ายในกล่องเข้าประตูตาข่ายเป็นประตูแรกของเขาในการประเดิมสนาม ลงสนามนัดแรกกับสีของเสื้อปีศาจแดงแล้วก็ต้องชื่นชมว่าอีก 2 ประตูของยูไนเต็ดมาจากการโต้กลับที่เฉียบขาด ด้วยประตูขึ้น 2-1 Dalot จ่ายให้กับ Eriksen ยังคงไหลสำหรับ Bruno เพื่อจ่าย Killer ผ่านเพื่อให้ Rashford หลุดออกจากตาข่ายในขณะที่เป้าหมาย 3-1 ต้องได้รับการชื่นชม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่พยายามต่อยบอลจน บรูโน่ ที่แทงทะลุขวาทันที อีริคเซ่น ที่ค่อยๆ สอดแทรกเข้าไป นำบอลเข้าเขตโทษก่อนส่งบอลเรียบร้อยให้มาร์คัส แรชฟอร์ดทำประตู
3.ความผิดพลาดของอาร์เตตา
ตอนที่ อาร์เซนอล โดนนำ 2-1 รูปเกมของพวกเขายังไม่ได้แย่ลงไปเลย แต่อยู่ดีๆ มิเกล อาร์เตตา ก็ทำเรื่องที่ไม่น่าทำด้วยการเปลี่ยนตัวนักเตะรวดเดียว 3 คน โดยเฉพาะการเปลี่ยนนักเตะอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ออกมา ทำให้รูปเกมแย่ลงไป แมนยูฯ ถล่ม อาร์เซนอล ซึ่งเรื่องนี้ พอล สโคลส์ อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ถึงกับยอมรับว่าช็อกมากกับการตัดสินใจของ อาร์เตตา และที่สำคัญ หลังจากการเปลี่ยนตัวครั้งนี้ อาร์เตตา ได้เปลี่ยนมาเล่นระบบกองหลัง 3 คน จนทำให้ ยูไนเต็ด มีพื้นที่ในการโจมตีมากขึ้น และมาได้ประตูที่ 3 ปิดเกมไปได้ในที่สุด
4.อีริคเซน ผู้ปิดทองหลังพระ-แม็คโทร่างทอง-แรชฟอร์ดยิงเพิ่มความมั่นใจ
คลาสบอลของ คริสเตียน อีริคเซน ช่วยยกระดับการเล่นของ ปิศาจแดง ได้อย่างชัดเจน ถ้าไม่เชื่อเราก็ลองมาดูสถิติส่วนตัวของ อีริคเซน ในเกมนี้กัน เริ่มที่ ผ่านบอลแม่นยำ 76%, ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย 11 ครั้ง, ผ่านบอลยาวสำเร็จ 3 ครั้ง, จ่ายบอลสำคัญ 2 ครั้ง และทำ 1 แอสซิสต์จากการหลุดไปจ่ายให้ แรชฟอร์ด ยิง 3-1 ส่วนคนต่อมาที่ต้องชมก็คือ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ฟอร์มดีวันดีคืน เล่นดีต่อเนื่อง นัดนี้เขาถือเป็นหัวใจแดนกลางของทีมในการช่วยทำลายเกมคู่แข่ง เล่นไปตามหน้าที่ของตัวเอง แย่งบอลได้ก็จ่ายต่อไปให้ บรูโน หรือ อีริคเซน ทำเกมต่อ ไม่ตะบี้ตะบันพาบอลลุยไปเองแล้วเสียบอลเหมือนแต่ก่อน ดูแล้วถ้าเจ้าตัวยังเล่นได้แบบนี้ไปเรื่อยๆ ก้เป็นเรื่องยากสำหรับ คาเซมิโร ที่จะเบียดแย่งตัวจริงไปจากเขา ส่วนคนสุดท้ายที่ไม่ชมไม่ได้เลยก็คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด นัดนี้ยิงไป 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เขาในการเล่นตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าได้เยอะเลย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : subjoke.com
ที่มา : www.thairath.co.th
